15 วิธีป้องกันหวัด2009(25พ.ค.52)
1.ให้ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศจัดเตรียมแผนระดับชาติเพื่อควบคุม เฝ้าระวังการติดต่อระหว่างคนสู่คนและในสัตว์ โดยให้ซ้อมแผนรับมือไข้หวัดใหญ่ ตามที่ได้เตรียมมาตรการไว้ทันที
2.ให้แต่ละประเทศสนับสนุนการเฝ้าระวัง ควบคุมโรค ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 อย่างเข้มแข็งโดยเฉพาะระบบการเฝ้าระวังที่รวดเร็ว และตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ
3.ให้แต่ละประเทศจัดซ้อมแผนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลข่าวสารให้กับหน่วยงานประชากรภายในประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และสร้างผลกระทบทางสังคม
4.จัดระบบตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางออกนอกประเทศในพื้นที่ที่เกิดการติดเชื้อ รวมทั้งตามแนวพรมแดนระหว่างประเทศ และหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อประเทศ ที่มีโรคระบาดโดยให้ใช้คำว่า "พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ" โดยในอนาคตจะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ต่อไป ของการกำหนดพื้นที่ติดเชื้อว่าจะต้องมีเกณฑ์และหลักการอย่างไร เช่น ใช้ชื่อเมืองแทน เพื่อลดผลกระทบท่องเที่ยวและการค้า
5.ให้แต่ละประเทศพิจารณาหามาตรการสนับสนุนเวชภัณฑ์ ยาระหว่างกันโดยให้ใช้คลังยาเพื่อสนับสนุนกันโดยตรง ซึ่งเบื้องต้นประเทศอาเซียนมีคลังยาอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
6.แต่ละประเทศต้องพิจารณาเพิ่มการสำรองเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ โดยจัดระบบการเข้าถึงยาต้านไวรัส ยาจำเป็น อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ในกรณีที่มีการระบาดของเชื้อจะทำให้ระบบการดูแลรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
7.ดำเนินการตามหลักวิชาการขององค์การอนามัยโลก เรื่อง ข้อแนะนำการเดินทาง ไม่ให้เกิดอุปสรรค โดยไม่ใช้วิธีการปิดกั้นพรมแดน หรือห้ามการเดินทาง
8.สนับสนุนให้ทุกประเทศปฏิบัติตามกฎขององค์การอนามัย ข้อ 61.21 ที่ต้องการให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยา วัคซีน ในระดับภูมิภาค
9.ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน แบ่งเป็น 1.แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร สถานการณ์ การระบาดระหว่างประเทศอย่างฉับพลัน โดยเปิดสายด่วน 2.จัดตั้งทีมสอบสวน ควบคุมโรคเคลื่อนที่เร็วระหว่างประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือระหว่างกันได้อย่างทันทีหากมีการร้องขอ 3.เสริมสร้างขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการ ในการตรวจวินิจฉัยเพื่อยืนยันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยอบรมและให้ความรู้ จัดประชุมวิชาการ 4.เสริมศักยภาพและความร่วมมือในภูมิภาคให้มากขึ้นจากเดิม ศึกษาวิจัยเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทางด้านสารพันธุกรรม อาการป่วย ระบบการดูแลรักษาเพื่อเป็นเครือข่ายความร่วมมือ ในการรับมือโรคระบาดใหม่ เช่นเดียวกับโครงการเฝ้าระวังโรคประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โครงการความร่วมมือวิจัยโรคติดเชื้อประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะทำให้ระบบสาธารณสุข ที่ดูแลความปลอดภัยในภูมิภาคนี้ยั่งยืนเข้มแข็ง
10.ขอความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
11.เรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกพิจารณาปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การยกระดับความรุนแรงของโลก ในกรณีที่จะมีการยกระดับการระบาด ขอให้มีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ประเทศสมาชิก และใช้เกณฑ์อื่นๆประกอบการพิจารณา นอกเหนือการหลักภูมิศาสตร์ เช่น ความรุนแรงของโรค การกลายพันธุ์ของเชื้อ และจำนวนผู้ป่วย
12.มีข้อเสนอให้องค์การอนามัยโลก สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนเชื้อไวรัส ทั้งไข้หวัดนก และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
13.ขอให้ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก สนับสนุนส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ เข้าถึงวัคซีน หากมีการคิดค้นได้ โดยต้องมีการหากลไกในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
14.เชิญชวนให้องค์กรนานาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก องค์การสหประชาชาติ สนับสนุนด้านงบประมาณ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องสำรองคลังยา เวชภัณฑ์ต่างๆ ในอาเซียน เพื่อให้คลังยามีประสิทธิภาพมากขึ้น
15.ให้เลขาธิการอาเซียนดำเนินการซ้อมแผนรับมือการระบาดในประเทศสมาชิก ระดับภูมิภาคร่วมกัน
โดยข้อตกลงร่วมกันทั้ง 15 ข้อ แบ่งเป็น 3 หมวดหลัก คือ 1-6 มาตรการในส่วนของแต่ละประเทศที่จะต้องกลับไปดำเนินการ 7-10 มาตรการความร่วมมือในระดับภูมิภาค และ 11-15 เป็นข้อเสนอที่จะเสนอของประเทศอาเซียน ต่อที่ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 18-22 พฤษภาคมนี้